ตะวันตกที่ทับลาน วังน้ำเขียว
หลังจากที่ได้ไปเที่ยวเชิง ยังไงก็ได้ กันมา หรือจะว่าเที่ยวแบบแล้วแต่ก็ไม่ผิด ฮ่า เพราะทุกคนไม่มีความเห็นอะไรกันเลย แต่ยังไงๆ เราก็ได้ไปมากันแล้ว

วัดโสธรวรารามวรวิหาร (วัดหลวงพ่อโสธร)
เส้นทางที่เราใช้ตอนขาไป คือ ต้องผ่าน ฉะเชิงเทรา แล้วเรา้ก็ไม่พลาด วัดนี้เลย วัดหลวงพ่อโสธร เข้าไปกราบเอาสิริมงคลกันซะก่อน หลังจากนั้นไม่ห่างกันเพียงแค่ 2-3 กม. ก็ได้ไปดูงานปั้นทรายกัน
มีงานปั้นมากมาย หลายชิ้นทั้งของคนไทย คนต่างประเทศ ไปเข้าชมกันได้ ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 40 บาท
ได้ของฝากติดมือมา 1 ชิ้น เป็นงานจักรสานแต่ซื้อที่งานปั้นทราย
หลังจากเราถึงที่พัก เก็บข้าวเก็บของกันเรียบร้อย สิ่งที่เราต้องทำถ้ามาเที่ยวที่นี่ ก็คือ ไปเก็บตะวันกัน สถานที่ที่นี่ที่ขึ้นชื่อลือชาก็คือ ผาเก็บตะวัน อยู่ที่ วังน้ำน้ำเขียว ห่างจากที่เราพักเพียง 20 กม. เท่านั้น ไปกันเลย
กิจกรรมที่นี่ ไม่มีอะไรมากมาย กางเต้นท์ นอนสูดอากาศ เค้าว่าที่นี่ โอโซน อันดับ 7 ของโลก ผมพยาย๊าม พยายามมองในแง่ดี เพราะตั้งแต่ทางขึ้นมาที่นี่ไม่มีถนนที่รู้สึกว่าเรียบเลย เป็นลูกรังปนฝุ่น และฝุ่นนี่แหละน่าจะเป็นตัวทำให้โอโซนที่นี่ขึ้นชื่อ ฮ่าๆๆ
เอาน่าไหนๆ ก็มาถึงแล้ว หาไรทำกันดีกว่า เราเลยซื้อ เมล็ด มะค่าโมง แล้วใช้หนังสะติ๊กยิงมันให้ตกหน้าผาไป เพื่อเป็นการปลูกไปในตัว
แอบนึกกันเล่นๆ ว่าใต้หน้าผานี้คงมีตาข่ายใหญ่ๆ เอาไว้ดักเมล็ดที่เรายิงไป พอพวกเรากลับ เค้าก็ลงไปเก็บมาขายต่อ ฮ่าๆๆ ช่างคิดเนอะ ตาข่ายคงจะใหญ่มากกกกกกกกก
ยิงกันมาซักพัก ดวงตะวันเริ่มโรยแรง คงจะเหนื่อยมาทั้งวัน อิอิ ค่อยๆ เคลื่อนตัวต่ำลงๆ เราก็เริ่มบันทึกภาพ ปรับโน่นมั่งนี่มั่ง ชัดมั่ง มืดมั่ง มั่วๆ กันไป
เห็นโปรแกรมเมอร์เพื่อนผมยืนคิดอะไรอยู่พักนึง และแล้ว!!!
เล่นซะแสบลิ้นกันไปเลย ฮ่า
ระหว่างนี้เราก็รอให้ดวงตะวัน อ่อนแรงกว่านี้ และแผดแสงสีส้ม ส่องมาให้เราได้สัมผัส เพราะเป็นช่วงเวลาที่เรา รอ รอคอย
แล้วก็ นั่น นั่น โอ้วววววว
แล้วทุกคนก็ได้เห็น ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ตกดิน ฮ่าๆๆ หาดูยากมาก
ดูซิ ตะวันมันตกตอนเย็น จริงๆ ด้วย อิอิ
หลังจากได้เห็นดวงตะวันตกกันไปแล้ว เราก็ขับรถผ่านสายฝุ่นบนถนนลูกรัง ขุกขักๆ กลับที่พัก พร้อมกับพักลูกกะตาที่จ้องมองดวงตะวันมาหลายชั่วโมง
เช้าวันใหม่เลยมาเก็บภาพที่รีสอร์ท กันอีกนิด
แล้วก็ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯกัน โดยระหว่างทางเราก็แวะไปเรื่อย จนมาเจอร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ซึ่งแต่งร้านได้สวย น่ารักมากๆ
ตามประสาพวกเรา ก็เลยเก็บภาพกันอีกซะหน่อย
แล้วเราก็ขับรถกันต่อไป ผ่านทุ่งทานตะวัน ของใครก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า ต้องถ่ายรูปแล้วล่ะ
แล้วก็ถึงเวลาที่เราจะวิ่งยาวเข้าสู่ เมืองหลวง กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ที่ต้องทำงานแข่งกะเวลา ระยะเวลาสองวัน 1 คืนมันอาจจะน้อยสำหรับบางคน แต่มันมีค่าแก่การทรงจำ อย่างน้อยก็พวกเรา 4-5 คน
ไว้พบกันทริปหน้า ทริป ยังไงก็ได้ ฮ่า ๆ ๆ
ไปกันเพราะแรงโปรโมทจริงๆ นะเนี่ย..อยากไปสูดโอโซนอันดับ 7 ของโลก เลยได้โอโซนฝุ่นมาซะหนึ่งคันรถ 555
ัแต่อย่างน้อยก็มีอีกหลายคันรถที่ได้โอโซนติดกลับไปที่พักด้วยเหมือนกัน 55 ที่จริงพวกเราก็ได้ประสบการณ์ใหม่ ..ได้ออกไปหาเชื้อมาเติมไฟให้กับชีวิตที่ต้องเร่งรีบทุก ๆ วัน ว่ากันว่าทุกที่มีหลายมุม พวกเราก็เลยเลือกมุม (ที่คิดว่า) สวยที่สุดมาให้ดู……………ยังไง้ ยังไง…ก็เอาใจช่วยแบ่งเวลาไปหาโอโซนมาสูดใส่ปอดกันนะ….จะได้ปอดหย่าย………ใหญ่ “”””หัวใจจะได้กระดี๊กระด๊าไปกะธรรมชาตินะจ๊ะ
บรรยกาศ สวยดี น่าไปๆๆๆ อยากรู้ว่าคนไหนเป็นคนถ่ายรูป ภาพสวยดี ครับ
บรรยากาศดีจัง น่าอิจฉาว่ะ อยากไปมั่งอ่ะ…
หึ หึ … บรรยากาศสวยดีอ่ะ น่าไปเนาะ แต่ถ้าให้ดีกว่านี้ เอาทุกคนในรูปออกไปให้หมดเถอะ
อิ อิ … รูปจะสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกก ^^..